บนรถเมล์ (6) : 1 เดือน มี 34 วัน

กรกฎาคม 7, 2007

เปล่า, ไม่ใช่โปรโมชั่นเติมเงินโทรศัพท์มือถือ

เรื่องของเรื่องมันเริ่มจากการที่ฉันต้องย้ายตัวเองเข้าไปทำงานในสถานที่ใหม่…ในองค์กรเดิม

เมื่อเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ใครๆ ก็ถามว่า  “เปลี่ยนงานหรือ?”
ฉันต้องคอยตอบว่า “ไม่”
งานเดิม ตำแหน่งเดิม เพื่อนร่วมงานเดิม หัวหน้าเดิม และเจ้าของบริษัทคนเดิม

ทำไมต้องตบท้ายว่าเจ้าของบริษัทคนเดิม ?

เพราะการย้ายสถานที่ทำงานในความเคยชินของมนุษย์เงินเดือน มักเป็นการย้ายตัวเองออกไปอยู่ในที่ใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ตำแหน่งงานใหม่ ทุกอย่างใหม่ พอบอกว่าทุกอย่างเดิมๆ คำถามที่ตามมาก็เลยกลายเป็นว่า เปลี่ยนเจ้าของแหงๆ

ก็แค่ย้ายไปอยู่ตึกใหม่

เข้าเรื่องดีกว่าว่าฉันได้โปรโมชั่นวันพิเศษมาจากไหนถึงเดือนละ 4 วัน

พุธ 4 กรกฎาคม 2550 ฉันขึ้นหัว MSN ว่า

‘จะเอาเวลาวันละ 5 ชั่วโมงบนรถไปทำอะไรดี’

ความหงุดหงิดและเสียดายเวลาเกิดขึ้นเมื่อฉันพบว่าการเดินทางไป-กลับในช่วงเวลาที่ต้องรีบนั้นใช้เวลานานเกินจำเป็น
หากเป็นช่วงกลางวันการเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง (ฉันใช้คำว่า ‘เพียง’ แต่หลายๆ คนยังบอกว่า ‘ตั้ง’) ทว่าในความเป็นจริงฉันกลับต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง
บ้านอยู่พระราม 2 ทำงานพระราม 5
ไป-กลับ รวม 5 ชั่วโมง !!!

เสียดายเวลาที่ต้องสูญไปอย่างไร้ค่า โมโห หงุดหงิดว่าคนอีกเป็นล้านๆ ต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ บนท้องถนนเท่าไหร่กัน แทนที่จะเอาเวลาเหล่านั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ พานคิดไปถึงว่าการเสียเวลาแบบนี้แหละที่เป็นส่วนหนึ่งให้บ้านเมืองเราไม่ไปถึงไหน

เพื่อนผู้หวังดีที่ตอบกลับมาใน MSN ส่วนใหญ่จะแนะนำให้….

‘ย้ายไปอยู่หอ’
เรื่องย้ายที่อยู่ให้ใกล้ที่ทำงานดูจะเป็นทางออกแรก การย้ายไปอยู่หอที่ใกล้ที่ทำงานมีข้อดีคือ ช่วยให้ฉันไม่ต้องตื่นเช้าและไม่ต้องเสียค่ารถ แต่ก็ต้องจ่ายค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ 2 ต่อ คือที่บ้านและที่หอ ถึงไม่อยู่บ้านก็ต้องจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟนี่ คำนวณดูแล้วสบายกายแต่อาจอดตายภายหลัง ฉันเลยต้องปฏิเสธคำแนะนำนี้

‘เปลี่ยนงานใหม่’
คำแนะนำต่อมา…เมื่อย้ายที่อยู่ไม่ได้ก็ย้ายที่ทำงานซะ
จะบ้าเรอะงานสมัยนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน

คำแนะนำอื่นหลั่งไหลมาเรื่อยๆ
กินอาหารเช้า-เย็นบนรถ, นั่งหลับ, ฟัง MP3, เปิดฟังรายการวิทยุภาคภาษาอังกฤษ. คุยโทรศัพท์, โหลดเกมมาเล่น, โทรฯโหวตให้กระเป๋า+คนขับ, นั่งนับป้ายรถเมล์ เสาไฟ ต้นไม้ นับไปเรื่อยๆ และกระทั่งบอกให้นั่งทำสมาธิ ทำวัตรเช้า-เย็น !!!

5 ชั่วโมงที่สูญเสีย กลายเป็น 5 ชั่วโมงที่ได้มาเมื่อฉันปิ๊งไอเดียว่า
งั้นใช้เวลาคิดงานที่อยากเขียนบนรถมันซะเลย มีเวลาถึงวันละ 5 ชั่วโมงเชียวนะ

ได้เวลาเพิ่มมาฟรีๆ วันละ 5 ชั่วโมง
สัปดาห์นึงทำงาน 5 วัน เท่ากับได้เวลาเพิ่มมา 25 ชั่วโมง (คิดเป็น 1 วันก็แล้วกัน)
เดือนนึง 4 สัปดาห์ เท่ากับว่าฉันได้เวลาเพิ่มมา 4 วัน

ต่อไปนี้ 1 เดือนของฉันจะมี 34 วัน !!!

นี่หรือเปล่าที่เขาว่าคิดบวกก็ได้บวก คิดลบก็มีแต่จะติดลบ
ไม่, ฉันไม่ได้คิดบวกเพื่อความเท่ ดูดีอะไรหรอก ก็แค่ทนไม่ได้ที่ต้องทิ้งเวลาให้สูญเปล่า แค่ไม่อยากมาตั้งคำถามว่า ทำไมต้องมาทนนั่งอยู่บนรถนานๆ แทนที่จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ซึ่งเอาเข้าจริงอย่างอื่นที่ว่านั่นมักเป็นการไปเดินห้างดูโน่นนี่ หาของกิน ห่างไกลจากการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์หลายขุม

มันอาจจะยากกับการรวบรวมสมาธิคิดปะติปะต่อเรื่องราวในหัว แล้วเอามาเขียนขึ้นภายหลัง
แต่อย่างน้อยเรื่องราวที่คุณอ่านอยู่ตอนนี้ก็เป็นงานแรกที่ฉันใช้เวลาขณะเดินทางกลับบ้านในเย็นวันนั้นร่างขึ้นมา
 
มันต้องมีเรื่องต่อๆ ไป 
ฉันบอกตัวเอง

7 กรกฎาคม 2550